#เกษตรกรรม #เกษตรกรรม #ผัก #ผลิตผลตามฤดูกาล #เกษตรยั่งยืน #เกษตรท้องถิ่น #สิ่งแวดล้อมยั่งยืน
ในฐานะผู้บริโภค เรามักถูกตัดขาดจากแหล่งที่มาของอาหาร และไม่รู้ถึงฤดูกาลของผัก อย่างไรก็ตาม การรับประทานผลผลิตตามฤดูกาลไม่เพียงแต่รักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังมีรสชาติที่อร่อยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ผักต่างๆ กันจะมีขึ้นตามฤดูกาลในช่วงเวลาต่างๆ ของปี และผักตามฤดูกาลมักจะสดกว่าและมีรสชาติดีกว่าผักที่ไม่ได้อยู่ในฤดูกาล ในบทความนี้ เราจะมาดูกันดีกว่าว่าผักชนิดใดที่อยู่ในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูหนาวเป็นฤดูของผักราก ซึ่งเติบโตใต้ดินและดูดซับสารอาหารจากดิน ซึ่งหมายความว่าผักเหล่านี้เป็นผักที่ดีต่อสุขภาพและมีประโยชน์มากที่สุดที่คุณหาได้ เช่น บีทรูท กะหล่ำปลี และรูตาบากา นอกจากนี้คุณยังจะได้พบกับผักตระกูลกะหล่ำ หัว และอัลลีเมียมมากมาย บีทรูท กะหล่ำดาว กะหล่ำปลี แครอท เซเลอรี กระหล่ำปลี คะน้า กระเทียมหอม หัวหอม พาร์สนิป มันฝรั่ง รูตาบากา มันเทศและมันเทศ ชาร์ดสวิส และหัวผักกาดล้วนมีตามฤดูกาลในฤดูหนาว
ผักในฤดูใบไม้ผลิมักจะมีสีอ่อนกว่าและมีสีสัน และหลายๆ อย่างมีความกรุบกรอบที่ไม่อาจต้านทานได้ คุณจะยังคงพบผักรากในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ก็ยังเป็นฤดูกาลสำหรับผักใบเขียว เห็ดเนื้อ และหัวไชเท้าซิงกี้ หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลี กะหล่ำปลี แครอท ขึ้นฉ่ายฝรั่ง กระหล่ำปลี กระเทียม สมุนไพร ผักคะน้า ผักกาดหอม เห็ด หัวหอม หัวไชเท้า รูบาร์บ ผักโขม ชาร์ดสวิส และหัวผักกาด ล้วนมีตามฤดูกาลในฤดูใบไม้ผลิ
สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าผลิตผลตามฤดูกาลจะแตกต่างกันไปตามสภาพการปลูกและสภาพอากาศ และส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในประเทศที่คุณอาศัยอยู่ นอกจากนี้ ผักบางชนิดอาจมีฤดูกาลที่กินเวลาหลายเดือน เช่น พริกหยวก และบางชนิดก็มีตามฤดูกาลตลอดทั้งปี ในทางกลับกัน พันธุ์อื่นๆ เช่น รูบาร์บ มีฤดูกาลที่สั้นกว่ามาก
โดยสรุปแล้ว การกินผักตามฤดูกาลไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพและต่อมรับรสของเราเท่านั้น แต่ยังสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนในท้องถิ่นอีกด้วย ด้วยการเลือกผลิตผลตามฤดูกาล เรายังช่วยลดรอยเท้าคาร์บอนและมีส่วนทำให้โลกมีสุขภาพที่ดีขึ้น ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณไปซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดเกษตรกร อย่าลืมตรวจสอบผักตามฤดูกาลและลิ้มลองรสชาติของผลผลิตตามฤดูกาลที่สดใหม่